สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการประปานครหลวง จำกัด

ประวัติความเป็นมา


          สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการปานครหลวง จำกัด (เรียกโดยย่อว่า สอ. กปน.) ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2515 โดยการริเริ่มของพนักงานการประปานครหลวงคณะหนึ่ง ประกอบด้วย นายประพนธ์ สมพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรการ และมีพนักงานการประปานครหลวงอีกจำนวนหลายท่าน ได้ร่วมกันเป็นแกนนำจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการประปานครหลวง จำกัด แห่งนี้ขึ้น โดยได้พิจารณาเห็นว่าพนักงานการประปานครหลวงจำนวนไม่น้อยในขณะนั้น มีฐานะความเป็นอยู่ไม่สู้จะดีนัก กล่าวคือ บางรายมีหนี้สินจากบุคคลภายนอกโดยต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง และบางรายไม่สามารถปลดหนี้ได้ ต้องเป็นหนี้ถาวรไปตลอดกาล และอีกประการหนึ่ง เพื่อเป็นการส่งเสริมให้สมาชิกได้มีโอกาสออมทรัพย์ไว้กับสหกรณ์ อันเป็นการส่งเสริมสงวนส่วนแห่งรายได้ของตนไว้ในทางอันมั่นคงแก่ตนเอง และยังประโยชน์แก่ครอบครัว และที่สำคัญเพื่อให้สมาชิกที่มีหนี้สินจากบุคคลภายนอกได้มีโอกาสกู้เงินไปชำระหนี้ให้หมดไปในที่สุด และเพื่อให้สหกรณ์แห่งนี้เป็นองค์กรการเงินถาวรอย่างมั่นคงเพื่อสมาชิกใช้ประโยชน์และรับประโยชน์ อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิกอีกด้วย 

คณะผู้จัดตั้งสหกรณ์แห่งนี้จึงได้มีหนังสือแสดงเจตจำนงไปยังผู้บริหารการประปานครหลวง ในขณะนั้น ศาสตราจารย์จำรัส ฉายะพงษ์ เป็นผู้ว่าการ และ นายกระจก ศุภกิจวิเลขการ รองผู้ว่าการ ซึ่งผู้ว่าการและรองผู้ว่าการได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยได้ออกหนังสือเวียนชักชวนพนักงานการประปานครหลวง สมัครเข้าเป็นสมาชิก และในอีกทางหนึ่งได้มีหนังสือขอความร่วมมือไปยังกองสหกรณ์พาณิชย์และธนกิจ กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติ (ปัจจุบันเป็นกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี โดยให้ข้าราชการในสังกัดมาให้คำแนะนำ 2 ท่าน คือ นายทะเบียน บริสุทธิ์ พนักงานสหกรณ์โท (ถึงแก่กรรม) นางสาวจีระนันท์ จิตยุติ พนักงานสหกรณ์ตรี เป็นผู้ประสานงานดำเนินการจัดตั้งสหกรณ์แห่งนี้จนประสบความสำเร็จตราบเท่าทุกวันนี้

ในระยะเริ่มแรก มีพนักงานการประปานครหลวง เห็นชอบกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสหกรณ์แห่งนี้ สมัครเข้าเป็นสมาชิกจำนวน 120 คน ซึ่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 บัญญัติไว้ในมาตรา 11 ว่า คณะบุคคลมีจำนวนไม่น้อยกว่า 10 คน สามารถขอจดทะเบียนสหกรณ์จำกัด ได้ คณะผู้จัดตั้งจึงได้เรียกประชุมสมาชิกจำนวน 120 คน ดังกล่าว เพื่อแต่งตั้งกรรมการเป็นตัวแทนจำนวน 10 คน เพื่อลงลายมือชื่อขอจดทะเบียนต่อนายทะเบียนสหกรณ์ และทำหน้าที่เป็นกรรมการชั่วคราว ประกอบด้วย

1. นายประพนธ์ สมพงษ์ ประธานคณะผู้จัดตั้ง (ถึงแก่กรรม)
2. นายสุริย์ คูณผล เลขานุการ
3. ร.ต.ท.ประสานสุข ถิระวัวัฒน์ กรรมการ
4. นายยิ่ง รัศมิทัต กรรมการ (ถึงแก่กรรม)
5. นายอุบล สุกใส กรรมการ
6. นายปกิจ สยะนานนท์ กรรมการ (ถึงแก่กรรม)
7. นายศรีศักดิ์ รักษ์มณี กรรมการ (ถึงแก่กรรม)
8. นางแน่งน้อย พยุงธรรม กรรมการ
9. นายสุพนธ์ ไวรักษ์สัตว์ กรรมการ (ถึงแก่กรรม)
10. นายยง นิงสานนท์ กรรมการ (ถึงแก่กรรม)

สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการประปานครหลวง จำกัด ได้เริ่มดำเนินกิจการเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2516 โดยการบริหารงานของคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 1 ซึ่งในขณะนั้นมีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 705,467.02 บาท (เจ็ดแสนห้าพันสี่ร้อยหกสิบเจ็ดบาทสองสตางค์) มีสมาชิกจำนวน 242 คน ส่วนสำนักงานที่ทำการสหกรณ์นั้น การประปานครหลวงได้เอื้อเฟื้อพื้นที่ส่วนหนึ่งของสำนักงานใหญ่การประปานครหลวง อาคารตึก 6 ชั้น ซึ่งอยู่กับแผนกสวัสดิการ สี่แยกแม้นศรี เป็นที่ทำการ และได้ส่งพนักงานการประปานครหลวงแผนกสวัสดิการ ฝ่ายธุรการ มาช่วยปฏิบัติงาน 5 คน คือ

1. นายอุบล สุกใส ทำหน้าที่ผู้จัดการ
2. น.ส.สมคิด นนทรี เจ้าหน้าที่
3. นางสมสมร เคารพธรรม เจ้าหน้าที่
4. นายสมบัติ กัลป์ยะกิติ เจ้าหน้าที่
5. น.ส.อนงค์ ทรวดทรง เจ้าหน้าที่

ในการดำเนินงานในระยะเริ่มต้นของสหกรณ์ ภาระกิจหลักได้แก่การประชาสัมพันธ์ชักชวนให้พนักงานการประปานครหลวง สมัครเข้าเป็นสมาชิก จัดทำแบบพิมพ์ต่างๆขึ้นใช้ในสหกรณ์ ควบคุมรายรับ-จ่าย รับเงินค่าหุ้นสมาชิก และให้บริการเงินกู้สามัญและเงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉินแก่สมาชิก สำหรับเงินกู้สามัญ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท ผ่อนชำระไม่เกิน 60 งวด โดยมีเงื่อนไขการกู้ต้องเป็นสมาชิก 6 เดือนขึ้นไป จึงจะมีสิทธิ์กู้ สมาชิกผู้กู้ต้องยื่นแบบคำขอกู้พร้อมแสดงเหตุผลความจำเป็น และต้องอยู่ภายใต้ขีดความสามารถชำระหนี้เป็นสำคัญ ในเดือนหนึ่งๆ พิจารณาให้เงินกู้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ในกรณีกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน สมาชิกผู้กู้ต้องแสดงหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าจำเป็นเดือดร้อนจริงๆ จึงจะให้กู้ได้ในวงเงินครึ่งหนึ่งแห่งเงินได้รายเดือน แต่ต้องไม่เกิน 1,500 บาท ผ่อนชำระไม่เกิน 2 งวด อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี ในปีแรกได้กำไรสุทธิประจำปี 28,647.44 บาท (สองหมื่นแปดพันหกร้อยสี่สิบเจ็ดบาทสี่สิบสี่สตางค์) โดยจัดสรรเป็นทุนสำรองร้อยละ 10 เงินปันผลร้อยละ 8 เงินเฉลี่ยคืนร้อยละ 2 เงินทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผลร้อยละ 2 และค่าใช้จ่ายดำเนินการอีกต่างหาก สำหรับค่าตอบแทนกรรมการและเจ้าหน้าที่ไม่มี ทุกคนเสียสละอุทิศตนปฏิบัติงานเพื่อสหกรณ์
เมื่อสหกรณ์ได้ดำเนินกิจการย่างเข้าปีที่ 3 พ.ศ. 2518 คณะผู้บริหารเห็นว่าสหกรณ์มีฐานะดีขึ้นตามลำดับ กล่าวคือ มีทุนดำเนินการเพิ่มขึ้นและมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้น จึงได้จัดจ้างเจ้าหน้าที่เป็นของสหกรณ์เองให้เหมาะสมกับปริมาณงานของสหกรณ์ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 5 อัตรา มีตำแหน่งเจ้าหน้าที่บัญชี 1 อัตรา และเจ้าหน้าที่หน่วย 4 อัตรา ดังรายชื่อ คือ

1. น.ส.กรองทิพย์ ทิศายุกตะ เจ้าหน้าที่บัญชี
2. นายสุทธิพงศ์ สุนทรโภคิน เจ้าหน้าที่หน่วย (ลาออก)
3. นายเจริญชัย ฉลาดคิด เจ้าหน้าที่หน่วย (ลาออก)
4. น.ส.ประคอง โตเขียว เจ้าหน้าที่หน่วย (ถึงแก่กรรม)
5. น.ส.สุนทรี รักษ์มณี เจ้าหน้าที่หน่วย (ถึงแก่กรรม)

ในส่วนตำแหน่งผู้จัดการสหกรณ์ ได้ขอความร่วมมือพนักงานการประปานครหลวง ที่มีความรู้เกี่ยวกับด้านบัญชีการเงิน และเป็นผู้สมัครใจที่จะมาทำหน้าที่ผู้จัดการให้สหกรณ์ ดังรายชื่อ คือ

1. นายอุบล สุกใส
2. น.ส.จำนรรจา แย้มกลีบ
3. น.ส.ยินดี อยู่เวชวัฒนา
4. นางอังสนา ปรมาธิกุล

ในบางปีให้กรรมการทำหน้าที่ผู้จัดการก็มี สำหรับค่าตอบแทนผู้จัดการและเจ้าหน้าที่สหกรณ์ จะเป็นเงินเดือนก็ดีหรือเงินโบนัสก็ดี เริ่มจัดให้ตามความเหมาะสมตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นมา ปัจจุบันผู้จัดการสหกรณ์มีระเบียบกำหนดให้สอบคัดเลือกจากบุคคลภายนอกเป็นผู้จัดการ

ในส่วนของคณะกรรมการดำเนินการตามข้อบังคับ พ.ศ. 2516 ให้มีกรรมการอย่างน้อย 9 คน แต่ไม่เกิน 15 คน ตำแหน่งประธานกรรมการนั้นให้เลือกจากสมาชิก ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปานครหลวง หรือรองผู้ว่าการการประปานครหลวงก่อน คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 1 มี 9 คน ชุดที่ 2 และ 3 มี 12 คน ตั้งแต่ชุดที่ 4 เป็นต้นมา ชุดละ 15 คน ในระยะแรกไม่มีผู้ใดต้องการเป็นกรรมการ ต้องขอความร่วมมือร้องขอให้เข้ามาช่วยกันเป็นกรรมการบริหารงาน เพราะในขณะนั้นการพัฒนาการประปานครหลวงซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจใหม่ พนักงานทุกคนต้องปฏิบัติงานในหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็ง ไม่มีเวลาพอที่จะมาเป็นกรรมการ และอีกประการหนึ่งผลประโยชน์ตอบแทนก็ไม่มี ดังนั้นผู้ที่มาเป็นกรรมการล้วนแล้วเป็นผู้เสียสละให้กับสหกรณ์ ภารกิจของกรรมการในระยะเริ่มแรกดังได้กล่าวแล้วข้างต้น ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ เริ่มตั้งแต่คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 4 ได้รับเบี้ยประชุมครั้งละ 20 บาท ในเดือนหนึ่งประชุมแค่ครั้งเดียว ได้รับโบนัสคนละ 120 บาท ซึ่งปัจจุบันค่าเบี้ยประชุมจาก 20 บาท เป็น 500 บาท โบนัสจาก 120 บาท ในบางปีได้ถึง 80,000 บาท

รายชื่อประธานกรรมการตั้งแต่ชุดที่  1  ถึงชุดที่  46  คือ

ชุด ชื่อ – นามสกุล พุทธศักราช
1 ศาสตราจารย์จำรัส ฉายะพงษ์ 2516
2 – 3 ดร.บุญรอด บิณฑสันต์ 2517 – 2518
4 – 7 นายกระจก ศุภกิจวิเลขการ 2519 – 2522
8 – 9 นายประทัย พิศภูมิวิถี 2523 – 2524
10 นายสุวิช ฟูตระกูล 2525
11 นายบัญชา ฉัตรแก้ว 2526
12 นายวัฒนา ยุกแผน 2527
13 นายนิลชลัท คูหิรัญ 2528
14 นายสุวิทย์ ศิริยงค์ 2529
15 นายวิศิษฐ์ หล่อธีรพงษ์ 2530
16 – 23 นายสุวิช ฟูตระกูล  
24 นางชวนพิศ ธรรมศิริ 2539
25 – 27 นายสุธรรม ชัชวาลวงศ์ 2540 – 2542
28 นายรัตนะ สู่พานิช 2543
29 – 30 นายรัตนะ สู่พานิช 2544 – 2545
31 – 32 นายจุมพจน์ อภิวัฒนกุล 2546 – 2547
33 – 34 นายจุมพจน์ อภิวัฒนกุล 2548 – 2549
35 – 36 นายชาตรี บุญเฉลียว 2550 – 2551
37 – 38 นายชาตรี บุญเฉลียว 2552 – 2553
39 – 40 นายสมเกียรติ อมตะธงไชย 2554 – 2555
41 – 42 นายแพทย์สมศักดิ์ ภู่ธงชัยฤทธิ์ 2556 – 2557
43 – 44 นายแพทย์สมศักดิ์ ภู่ธงชัยฤทธิ์ 2558 – 2559
45 – 46 นายวรศักดิ์ ฉัตรแก้ว 2560 – 2561
47 – 48 นายกิตติพงษ์ อภิชัยชาญกิจ 2562 – 2563
49 – 50 นายกิตติพงษ์ อภิชัยชาญกิจ 2564 – 2565

คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 1 ถึง ชุดที่ 28 ได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2511 และโดยเงื่อนไขของข้อบังคับสหกรณ์ พ.ศ. 2516 กำหนดให้คณะกรรมการมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละหนึ่งปี และเมื่อพ้นตำแหน่งแล้ว อาจได้รับเลือกเข้ารับตำแหน่งอีกก็ได้ (ไม่ต้องเว้น) ซึ่งกฎหมายและข้อบังคับของสหกรณ์ดังกล่าวในบางส่วนมีบทบัญญัติบางประการไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 ในการสร้างหลักประกันและรองรับสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพของประชาชนไว้ โดยมาตรา 85 กำหนดให้รัฐต้องส่งเสริม สนับสนุน และคุ้มครองระบบสหกรณ์ การดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุและที่มาส่วนหนึ่งของพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 ในขณะเดียวกันเพื่อให้ข้อบังคับสหกรณ์ซึ่งถือใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2516 จำเป็นต้องปรับปรุงให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 โดยสมาชิกที่ประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 2 ประจำปี 2542 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2542 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เปลี่ยนใช้ข้อบังคับใหม่ เรียกว่า “ข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานการประปานครหลวง จำกัด พ.ศ. 2542” และนายทะเบียนสหกรณ์ได้รับจดทะเบียนให้แล้ว เลขทะเบียนข้อบังคับที่ อ.002943 ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2543

สาระสำคัญของข้อบังคับใหม่ในส่วนของหมวด 7 ข้อ 50 วรรคแรก กำหนดให้สหกรณ์มีคณะกรรมการดำเนินการ ประกอบด้วย ประธานกรรมการหนึ่งคน และกรรมการอื่นอีกไม่เกินสิบสี่คน วรรคสาม คณะกรรมการดำเนินการมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง ในวาระเริ่มแรกเมื่อครบหนึ่งปีนับแต่วันเลือกตั้ง ให้กรรมการดำเนินการออกจากตำแหน่งเป็นจำนวนแปดคน โดยวิธีจับสลาก และให้ถือว่าเป็นการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ วรรคสี่ กรรมการดำเนินการซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับเลือกตั้งอีกได้ แต่ต้องไม่เกินสองวาระติดต่อกัน วรรคห้า ในกรณีกรรมการดำเนินการซึ่งอยู่ในตำแหน่งสองวาระติดต่อกันตามวรรคสี่ อาจได้รับเลือกตั้งอีกได้ แต่ต้องเว้นไม่น้อยกว่า 1 ปี

ด้วยเหตุผลและเงื่อนไขแห่งข้อบังคับของสหกรณ์ดังกล่าวข้างต้น คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 28 (ชุดปัจจุบัน) ถือว่าเป็นคณะกรรมการดำเนินการในวาระเริ่มแรก เมื่อครบกำหนดหนึ่งปีในปี พ.ศ. 2543 ต้องจับสลากออกแปดคน รวมทั้งประธานกรรมการ ส่วนผู้ที่เหลือจะพ้นจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2544

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 สหกรณ์มีทุนดำเนินการรวมทั้งสิ้น 14,753,249,429.54 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันเจ็ดร้อยห้าสิบสามล้านสองแสนสี่หมื่นเก้าพันสี่ร้อยยี่สิบเก้าบาทห้าสิบสี่สตางค์) จำนวนสมาชิก 6,874 คน โดยสมาชิกได้อนิสงส์ในการใช้ประโยชน์และรับประโยชน์จากสหกรณ์นี้ได้อย่างพึงพอใจ ผู้เขียนใคร่ขอคารวะผู้จัดตั้งสหกรณ์แห่งนี้ทุกท่านด้วยความเคารพหาที่สุดมิได้ และขอให้สหกรณ์ของเราแห่งนี้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงตลอดไปตราบนานเท่านาน

สอ.กปน. เป็นของสมาชิก โดยสมาชิก และเพื่อสมาชิก